เห็ดหลินจือกับการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
ภูมิคุ้มกันโรคในร่างกาย เป็นสิ่งที่ติดตัวมาตามธรรมชาติ เป็นกลไกในการป้องกันตนเองที่จะกำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อต่างๆ ระบบภูมิคุ้มกันที่มีอยู่ยังสามารถมีหน่วยความจำที่จะหลั่งสารแอนตี้บอดี้หรือสร้างเซลล์ที่ทำหน้าที่จับกินเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมตัวเดิมบางชนิด ที่เข้ามารุกรานซ้ำได้ทันทีอวัยวะและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภูมิคุ้มกันได้แก่ไขกระดูกต่อมธัยมัส ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลือง และเซลล์เม็ดเลือดขาวทุกชนิด นอกจากนี้ยังมีสารประกอบที่เป็นของเหลวอีกหลายอย่าง ที่สร้างขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบภูมคุ้มกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่นสารอินมูโนโกลบูลินซึ่งเป็นแอนตี้บอดี้ในการต่อต้านเชื่อโรคและสิ่งแปลกปลอม สารคอมพลีเมนท์ สารโมโนไคน์-ลิมโพไคน์ หรือที่เรียกว่าอินเตอร์ลิวคิน 1-3 และอื่นๆ หน้าที่สำคัญไดยรวมของระบบภูมิคุ้มกันนอกจากจะกำจัดผู้รุกรานโดยตรงจากภายนอกแล้ว ยังคอยกำจัดเซลล์ของร่ายกายที่มีอายุมากหรือใช้งานไม่ได้รวมทั้งเซลล์ที่ผิดปกติอย่างเซลล์มะเร็งเป็นต้น
สารออกฤทธิ์ในเห็ดหลินจือมีมากมายหลายกลุ่มหลายชนิด แต่จากการวิเคราะห์โครงสร้างทางเคมีและการทดสอบสรรพคุณทางเภสัชวิทยาพบว่าสารประกอบประเภท พอลิเซ็กคาไรด์ หลายตัว มีส่วนเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันโรคมากที่สุด คุณสมบัติของ พอลีแซ็กคาไรด์ไม่ได้เป็นตัวภูมิต้านทานโดยตรงแต่เป็นตัวกระตุ้นหรือช่วยส่งเสริมการทำงานของอวัยวะและเนื้อเยื่อที่ทำหน้าที่ในการคุ้มกันโรค และผลรวมของพอลีแซ็กคาไรด์ทุกตัว ที่จะเสริมฤทธิ์ซึ่งกันและกัน ช่วยเพิ่มอัตราการดูซึมของสารออกฤทธิ์ในลำไส้ และช่วยยับยั้งพิษของพอลิแซ็กคาไรด์บางตัว เท่ากับเป็นการสร้างสมดุลย์ได้ภายในตัวของมันเอง การแยกสารออกฤทธิ์หลักในเห็ดหลินจือออกมาเพียงตัวใดตัวหนึ่งเพื่อให้ผลเฉพาะอย่างตามต้องการจึงไม่สามารถหวังผลในการรักษาได้ดีเท่ากับใช้ส่วนประกอบทั้งหมดของเห็ดรวมกัน
การเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคเป็นที่สนใจของนักวิทยาศาสตร์มานานเพราะมีบทบาทสำคัญที่สุดในการต่อต้านเชื้อไวรัส และการต่อต้านโรคมะเร็งซึ่งยังคงเป็นปัญหาซับซ้อนสำหรับการแพทย์แผนตะวันตก มีคำถามว่าแล้วเห็ดหลินจือมีคุณสมบัติอย่างไรในการเพิ่มภูมคุ้มกันโรค จะใช้ในการเพิ่มภูมิคุมกันโรคได้จริงหรือไม่ ถ้าได้กลไกการออกฤทธิ์เป็นอย่างไร ครั้นจะไม่เชื่อก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดเห็ดหลินจือจึงมีผู้นิยมใช้กันมานานมากกว่าสองพันปีและยังมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งและโรคอื่นๆ จำนวนมากมีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่โรคเหล่านั้นก็ยังไม่มียาอื่นๆใดบำบัดได้ และผู้บริโภคที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยหลายคน ก็ยืนยันว่าเห็ดหลินจือทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ขึ้นตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศจีนในฐานะของต้นตำรับการรักษาโรคด้วยเห็ดหลินจือ และญี่ปุ่นผู้ริเริ่มบุกเบิกงานวิจัยเห็ดหลินจือที่เป็นวิทยาศาสตร์ จึ่งมีโครงการความร่วมมือในการวิจัยผลของเห็ดหลินจือ ต่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคมีการศึกษาถึงผลที่มีต่อการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดขาว การสร้างแอนตี้บอดี้การต่อต้านสารแพ้ อิทธิพลในการกดปฎิกิรินาภูมิค้มกัน ขบวนการเก็บกินสิ่งแปลกปลอม และเซลล์ที่ผิดปกติ การช่วยสร้างสารอินเตอร์ลิวคิน การช่วยเพิ่มปัจจัยในการย่อยสลายเซลล์มะเร็ง และต่อการปลูกถ่ายอวัยวะ การป้องกันพิษต่อตับและผลต่อขบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง แม้ว่าจะได้ข้อสรุปที่แสดงว่าเห็ดหลินจือมีส่วนช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้ จนสามารถแก้ปัญหาให้กับผู้ป่วยเรื้องรังหรือโรคที่หายยากบางอย่างได้หลายราย แต่การศึกษาในรายละเอียดเป็นไป ด้วยความยากลำบากเพราะมีสารประกอบในเห็ดหลินจือ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคอยู่มากมายหลายชนิด คงจะต้องใช้เวลาในการไขข้อข้องใจอีกนานพอสมควร ในยุคที่มีความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความเชื่อถือที่มีต่อเห็ดศักดิ์สิทธิ์คงไม่ใช่ความงมงายอีกต่อไป และก็คงไม่ใช่เจ้าหน้าที่เฉพาะของแพทย์และนักวิจัยชาวจีน ชาวญี่ปุ่น เกาหลีหรือจำกัดอยู่เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น เห็ดหลินจือรวมทั้งสมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณค่าน่าจะเป็นสมบัติของชาวโลกทุกคนที่จะต้องร่วมมือกันค้นคว้าในรายละเอียดเพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถให้ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดแก่มวลมนุษย์ชาติต่อไป
ข้อมูล อ้างอิงจากหนังสือ
เห็ดหลินจือ LING ZHI โดย นายแพทย์ สุรพล รักปทุม และ นายแพทย์ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง
เห็ดหลินจือ LING ZHI โดย นายแพทย์ สุรพล รักปทุม และ นายแพทย์ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น