เห็ดหลินจือกับการชะลอความแก่

เห็ดหลินจือกับการชะลอความแก่





ตามสถิติโลกที่บันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค ประจำปีค.ศ. 1933 ระบุว่าผู้ที่มีอายุยืนที่สุดในโลกเป็นชาวญี่ปุ่นซึ่งถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้ 120 ปี 237 วันส่วนคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งไม่น่าจะมีใครเทียบรัศมีได้ก็เห็นจะเป้นชาวจีนซึ่งมีอายุอยู่ได้ถึง 134 ปี และถ้าจะพิจรณาค่าอายุเฉลี่ยสูงสุด ชาวญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นแชมป์คือ 79 ปีรองลงมาก็ฮ่องกง และ สวิสเซอร์แลนด์ 78 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 76-77 ปี และประเทศในภูมิภาคเอเซีย จีน 71 ปี เกาหลี 72 ปี ไต้หวัน 74 ปี ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ แต่เคยมีนักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มในสหรัฐอเมริกาประเมินกันว่าเผ่าพันธุ์ของมนุษย์เรานั้น น่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างแข็งแรงและมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ได้ถึงอายุ 115-120 ปี เพราะฉนั้นการที่เราจะอยู่ได้เกิน 70 ปี หรือแม้แต่อยากจะมีเป้าหมายให้อยู่ถึง 100 ปี ที่จริงก็ยังนับว่าน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ การที่มนุษย์เราส่วนใหญ่มีอันต้องลาโลกไปก่อนวัยอันควร          ก็เพาะแพ้ภัยธรรมชาติ แพ้ความอ่อนแอทางร่างกายหรือจิตใจ หรือไม่ก็แพ้ความชราของตนเอง การมีอายุยืนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง แต่ถ้ามีการวิเคราะห์เฉพาะในส่วนที่เกี๋ยวข้องกับอาหารการกิน ก็มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าประเทศตะวันออกอย่างเช่น จีน เกาหลี ฮ่องกง ได้หวัน และญี่ปุ่น นิยมบริโภคผัก ถั่งเหลือง และเห็ดกันเป็นอาหารประจำวันมากกว่าอาหารประเภทอื่นและพบว่ามีเห็ดหลายชนิดรวมทั้งเห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติดีกว่าอาหารประเภทอื่นๆ ที่นิยมบริโภคกันในประเทศตะวันตกเพราะในเห็ดมีสารที่สามารถลดไขมันในเลือด และช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนอเมริกาและชาวยุโรปอายุสั้นลง
     แล้วเห็ดหลินจือเกี๋ยวข้องกับการชลอความแก่หรือการมีอายุยืนได้อย่างไร มีโครงการความร่วมมือระหว่างจีนและญี่ปุ่นทำการวิจัยขบวนการแก่ตัว ของมนุษย์ที่พบว่าสารออกซิเจนในถาวะตื่นตัวและกลุ่มอนุพันธุ์อิสระ ในขบวนการทางชีววิทยาเกี่ยวพันกับการเกิดพิษ การเกิดโรคและความชรา  สารเหล่านี้เป็นตัวการสำคัญในการเพิ่มออกซิเจนของไขมัน ที่ผนังหุ้มเซลล์เกิดเป็นกลุ่มสารอีกหลายชนิด เช่นไลโปฟุสซิน  หรือรงควัตถุแห่งความแก่ เมื่อสะสมในสมอง หัวใจและผิวหนัง จะทำให้เซลล์ต่างๆเสื่อมสภาพหรือแก่ลง นอกจากนี้ก็ยังมีสารเรืองแสงบางชนิด สารเอ็มดีเอ สารไดอีน และสารเอสเออาร์ ก็เกี๋ยวข้องกับขบวนแก่ตัวเช่นเดียวกันจากการทดลองเพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของสารเอ็มดีเอ ในระดับไมโตครอนเดรียของเซลล์ตับ พบว่าน้ำสกัดจากเห็ดหลินจือสามารถหยุดยั้งปฎิกิริยา ของสารเอ็มดีเอได้ 100% และจากการตรวจจับการหมุนสั่งของอิเลคตรอนของสารเอสเออาร์ ก็พบว่าเห็ดหลินจือสามารถหยุดยั้งขบวนการแก่ตัวนี้ได้เช่นกัน คุณสมบัตินี้เหมือนกับการเป็นสารแอนตี้ออกซิเดนท์ ที่ช่วยยืดอายุการทำงานของเซลล์ เมื่อรวมกับการทดลองที่แสดงได้เห็นว่าเห็ดหลินจือทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเปลี่ยนแปลงรูปร่างได้ง่าย ช่วยลดความหนืดของเลือด ลดการเกาะกลุ่มรวมตัวของเกร็ดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ซึ่งได้รับเลือดหล่อเลี้ยงได้ดี ได้รับสารอาหารและอ็อกซิเจนอย่างเต็มที่ ก็ยิ่งมีส่วนสนับสนุนให้เซลล์มีความแข็งแรงด้วย
     กล่าวว่าสำหรับประเทศไทย ในปัจจุบันเรามีตัวเลขของค่าเฉลี่ยของผู้หญิงอยู่ที่ 69.75 ปี และผู้ชาย 65.25 ปี มีผู้สูงอายุวัยเกิน 60ปี ประมาณ4 ล้านคน แต่ใน 1 แสนคนจะมีผู้สูงอายุเจ็บป่วยหรือพิการอยู่ถึง 7,064 คน ถ้าเราสามารถรณรงค์ให้มีการส่งเสริมสุขภาพหลายอย่างประกอบกันไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การบริโภคอาหารที่มีคุณค่าหรือวิธีการอื่นๆ และถ้าหากเห็ดหลินจือ จะสามารถมีส่วนช่วยเปลี่ยนแปลงตัวเลขดังกล่าวเหล่านั้นไปในทางที่ดีขึ้นได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์แก่พลเมืองของเราไม่น้อยทีเดียว
 



ข้อมูล อ้างอิงจากหนังสือ 
เห็ดหลินจือ LING ZHI โดย นายแพทย์ สุรพล รักปทุม และ นายแพทย์ชวลิต สันติกิจรุ่งเรือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น